น้ำยาฆ่าเชื้อที่จำลองกลไกฆ่าเชื้อในมนุษย์ – กรดไฮโปคลอรัส
ทุกวันนี้มนุษย์ต้องเผชิญกับภาวะแวดล้อมที่เป็นพิษมากมาย รวมทั้งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากไม่ว่าจะโดยการกิน หรือรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลหรือช่องทางต่างๆ ทำให้มนุษย์พยายามหาวิธีการฆ่าเชื้อแบบต่างๆเพื่อฆ่าเชื้อไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส หรือ แม้กระทั่งเชื้อในรูปแบบของ “สปอร์”ที่ฆ่ายากมากเนื่องจากแม้จะต้มสปอร์ในน้ำเดือด 100 องศาเซลเซียส ก็ไม่ตาย แต่การฆ่าเชื้อบางอย่างก็ใช้ได้จำกัดเช่น เราไม่สามารถฆ่าเชื้อในอาหารสดที่จะนำมาจำหน่ายด้วยวิธีการต้มเพราะจะทำให้อาหารสุก หรือการใช้สารเคมีฆ่าเชื้อสามารถฆ่าเชื้อได้แต่อาจเป็นอันตรายต่อคนด้วยจึงไม่เหมาะในการฆ่าเชื้อในอาหาร หรือ พื้นผิวสำหรับเตรียมอาหาร
กรดไฮโปคลอรัส นี้สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส และ“สปอร์”ที่ฆ่ายาก ได้รวดเร็วในเวลา 2วินาที – 5 นาที โดยไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ เหตุผลที่กรดไฮโปคลอรัสไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์เนื่องจากกรดไฮโปคลอรัสเป็นสารเคมีที่ร่างกายมนุษย์สร้างขึ้นตามธรรมชาติในขบวนการของระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ (Immune System) เพื่อต่อต้านและฆ่าเชื้อโรคที่รุกรานเข้าสู่ร่างกายนั่นเอง
ขบวนการของการฆ่าเชื้อที่รุกรานเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์เริ่มจาก เมื่อมีเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์จะเริ่มทำงานเพื่อฆ่าเชื้อที่รุกรานก่อนที่เชื้อจะทำอันตรายต่อเซลของเรา โดยเม็ดโลหิตขาวที่มีชื่อเรียกว่า “นิวโทรฟิล” (Neutrophil) จะเข้ามาสร้างกรอบล้อมรอบเชื้อที่รุกราน ขบวนการนี้เรียกว่า Phagocytosis จากนั้นนิวโทรฟิล จะมีการสร้าง กรดไฮโปคลอรัส (HOCL-Hypoclorous Acid) จำนวนมากโดยขบวนการทางเคมีที่เรียกว่า Oxidative Burst Pathway ซึ่งสร้าง ไฮโดรเจนเปอร์อ็อกไซด์ มารวมตัวกับประจุ คลอไรด์ กลายเป็นกรดไฮโปคลอรัส และนำมาใช้ฆ่าเชื้อที่ล้อมกรอบไว้
แม้ว่ากรดไฮโปคลอรัส มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค แต่มันจะไม่ทำอันตรายต่อเซลของมนุษย์ เนื่องจากเซลของมนุษย์จะป้องกันตัวเองโดยการสร้างสารที่ปกป้องเซลที่มีประสิทธิภาพสูงและมีปริมาณสูง ซึ่งเรียกขบวนการนี้ว่า Antioxidant Defense System (ADS) ซึ่งเชื้อแบคทีเรียไม่มีคุณสมบัติเช่นว่านี้
รูป A บาดแผลทำให้ผิวหนังเราฉีกขาดและเป็นช่องทางให้เชื้อโรคที่เป็นอันตรายเข้าสู่ร่างกายและรุกรานเซลของเรา
รูป B เม็ดโลหิตขาว Neutrophil เป็นเม็ดโลหิตขาวที่ทำหน้าที่ต่อต้านเชื้อโรคในระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ จะอาศัยอยู่ในเส้นโลหิตของร่างกาย
รูป C เมื่อมีเชื้อเข้าสู่ร่างกายเม็ดโลหิตขาว Neutrophil จะเดินทางจากเส้นโลหิตไปยังบริเวณที่ติดเชื้อเพื่อฆ่าเชื้อโรคโดยขั้นแรกจะเข้ามาสร้างกรอบล้อมรอบเชื้อที่รุกราน
รูป D หลังจากเม็ดโลหิตขาว Neutrophil สร้างกรอบล้อมรอบเชื้อที่รุกรานเสร็จสิ้นแล้ว มันจะสร้างกรดไฮโปคลอรัส ซึ่งเป็นสาร Oxidant มีฤทธิ์ อ็อกซิเดชั่น กรดไฮโปคลอรัส ซึ่งมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อจะทำการฆ่าเชื้อโรคที่รุกรานทันที
เครื่องผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อ ดังกล่าวจำลองขบวนการระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์โดยการผลิต“กรดไฮโปคลอรัส” (HOCL-Hypoclorous Acid) ซึ่งเป็นสารต่อต้านเชื้อโรคที่ร่างกายผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติ กรดไฮโปคลอรัส นี้สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส และ“สปอร์”ที่ฆ่ายาก แต่ปลอดภัยต่อมนุษย์และเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อม ดังนั้นจึงมีการนำกรดไฮโปคลอรัสไปใช้ฆ่าเชื้อในงานต่างๆอย่างกว้างขวางเช่น
ฆ่าเชื้อเครื่องมือทางการแพทย์ (ผ่านการรับรองจาก อ.ย. สหรัฐอเมริกา-US FDA)
ใช้ผลิตน้ำแข็งสำหรับแช่อาหารทะเลสด เพื่อฆ่าเชื้อ และลดกลิ่นแอมโมเนียที่เกิดจากอาหารทะเลสด อีกทั้งเพิ่มความสดและยืดอายุให้แก่อาหารทะเลได้ 2 วัน กรดไฮโปคลอรัสจะฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วงเช่น Staphylococcus Aureus และ E.coli
กรดไฮโปคลอรัส ยังเพิ่มความสดและอายุให้ดอกไม้สด ในธุรกิจจำหน่ายดอกไม้สด
การทำวิจัยพบว่า กรดไฮโปคลอรัส เมื่อนำมาล้างแผลจะช่วยฆ่าเชื้อทำให้แผลหายเร็วขึ้น
เพิ่มสุขอนามัยโดยใช้กรดไฮโปคลอรัสฆ่าเชื้อบนพื้นผิวต่างๆ รวมทั้งพื้นผิวที่ใช้สำหรับเตรียมอาหาร
นอกจากนี้ยังมีการใช้งานเพื่อฆ่าเชื้อและควบคุมการติดเชื้อในงานต่างๆมากมายจากคุณสมบัติที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อสูง แต่ปลอดภัยต่อมนุษย์และเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อม นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.medinterthailand.com